"โรมัน อับราโมวิช" จากเด็กกำพร้า สู่มหาเศรษฐี

ชีวิตของ โรมัน อับราโมวิช เริ่มต้นด้วยความยากจน จากเด็กกำพร้า กลายเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของทีมเชลซีในพรีเมียร์ลีคอังกฤษ เขาผงาดขึ้นมาหลังความวุ่นวายที่เปลี่ยนรูปโฉมของประเทศรัสเซีย หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลาย

การยกระดับตัวเองขึ้นเป็น ‘โอลิการ์ช’ หรือมหาเศรษฐี ดูไม่ค่อยโปร่งใส ศาลสูงของอังกฤษ ได้มีการตรวจสอบในปี 2012 บอริส เบเรซอฟกี อดีตครูของเขาที่รับเป็นทนายในคดีนี้ รายงานต่อศาลว่า ความร่ำรวยของโรมัน อับราโมวิช เป็นเรื่องเล่าขานของรัสเซีย

เขาเกิดในปี 1966 สูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่อายุ 3 ขวบและถูกเลี้ยงมาโดยญาติๆ ในโคมิ รีพับลิก เมืองอันหนาวเหน็บทางตอนเหนือของรัสเซีย หลังจากเข้าไปเป็นทหาร เขาก็มาเรียนด้านวิศวกรรม และออกมาทำงานเป็นช่าง

ในรัสเซียช่วงเปเรสตรอยกา เปิดโอกาสให้กับธุรกิจขนาดเล็ก โรมัน เริ่มทำโรงงานผลิตของเด็กเล่นที่อพาร์ตเมนต์ของเขาเองในมอสโก ซึ่งมีสินค้าขายดีอย่าง เป็ดพลาสติก

หลังคอมมิวนิสต์ล่มสลาย เขาพยายามอย่างหนักที่จะเป็นผู้ค้าน้ำมัน และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ บอริส เบเรซอฟกี บอกว่า ในปี 1994 ตอนที่เขาพบกับโรมันบนเรือสำราญไปแคริบเบียน เขาก็เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว


การสร้างสรรค์ธุรกิจน้ำมันระดับประเทศ อย่าง ซิบเนฟต์ ทำให้เขาร่ำรวย หลังจากก่อนหน้านี้สร้างรายได้จากการขายรถยนต์ และนอกจากนี้ เขายังมีเส้นสายในรัฐบาล ที่ตอนนั้นเป็นประธานาธิบดี บอริส เยลต์ซิน ที่มีนโยบายควบรวมธุรกิจน้ำมันทั้งหมดไว้เป็นหนึ่งเดียว โดยไอเดียนี้มาจาก โรมัน อับราโมวิช ซึ่งตอนนั้นเขาอายุเพียง 29 ปี

โรมัน มีหุ้น 90% ในชิบเนฟต์ ซึ่งมีมูลค่าราว 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอาศัยเงินรัสเซียเท่ากับ 18.8 ล้านดอลลาร์ซื้อมา ซึ่งศาลอังกฤษบอกว่า อย่างนี้คือการคอร์รัปชั่น ทนายบอริสบอกว่า การทำธุรกิจในรัสเซียมีเอี่ยวทางการเมืองทั้งนั้นแหละในยุคนั้น

หลังจากยุคของบอริส เยลต์ซิน โรมันก็ยังมีสัมพันธ์อันดีกับ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีคนใหม่ นอกจากรายได้บริษัทน้ำมันที่ควบรวมมาบริหารโดยรัฐบาลแล้ว เขายังขายหุ้นของโรงงานผลิตอะลูมิเนียม ให้กับ โอเลก เดริปาสกา มหาเศรษฐีอีกคนไป 25% มูลค่า 540 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะมาซื้อทีมเชลซีในปี 2003

เขาเปลี่ยนโครงสร้างในบริษัทซิบเนฟต์ให้ทันสมัย จากนั้น ในปี 2005 ก็มีบริษัทแกซพรอม บริษัทพลังงานขนาดใหญ่ของรัฐบาล ซึ่งเขาก็ซื้อหุ้นไว้ 72%

เงินมากมายที่เข้าสร้างได้จากรัสเซีย ทำให้เขามีชีวิตที่หรูหรา ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังใหญ่ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เรือยอตช์ หรือรถหรู แต่เขาไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้มากไปกว่าการนำเงินไปอัดฉีดทีมเชลซี และมองหาการลงทุนครั้งต่อไป

ทว่า สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ต้องออกมาประกาศขายทีมรักอย่างช่วยไม่ได้