Celeb Online

โอ้ย! นี่ "แกรี ฟุคุนางะ" เป็นผู้กำกับหรือเป็นพระเอก "เจมส์ บอนด์" ภาคล่าสุดกันแน่!?


หลายๆ คนที่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้แฟรนไชส์หนังสายลับ อย่าง เจมส์ บอนด์ 007 และไม่เคยคิดจะดูพลันต้องเปลี่ยนใจเมื่อได้เห็นโฉมหน้าของผู้กำกับหนุ่มคนใหม่ แกรี โจจิ ฟุคุนางะ ที่หล่อล่ำจนหลายสื่อนำมาเปรียบกับ ดาเนียล เคร็ก คนรับบท 007 คนปัจจุบันที่กำลังจะเลิกเล่น แฟนหนังสาวน้อย-สาวใหญ่ล้วนประสานเสียงโหวตให้คุณผู้กำกับชนะเลิศ


แกรี ฟุคุนางะ เข้ามารับช่วงต่อในการกำกับภาพยนตร์ 007 เรื่องใหม่ No Time to Die ซึ่งเป็นแฟรนไชส์เจมส์ บอนด์เรื่องที่ 25 ต่อจาก แดนนี บอยล์ (เจ้าของผลงาน Slumdog Millionaire และ 28 Days Later) ที่อยู่ดีๆ ก็ไม่อยากทำงานต่อเสียดื้อๆ และหลังจากการตามหาผู้กำกับมาสานต่อโปรเจ็คต์ยักษ์นี้ ก็ได้ผู้กำกับลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกันมานั่งหลังแผ่นสเลท

หลายๆ คนอาจคิดว่า เป็นเรื่องแปลกนิดหน่อย ที่ได้ผู้กำกับอเมริกันมากำกับเรื่องราวสายลับอังกฤษ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก สมัย เจมส์ บอนด์ รุ่นคุณปู่ ฌอน คอนเนอรี ก็เคยได้ เออร์วิน เคิร์ชเนอร์ ผู้กำกับอเมริกันมาทำงานในเรื่อง Never Say Never Again

หรือแม้แต่บทบาท 007 สายลับชาวอังกฤษ ยังเคยมีนักแสดงอเมริกัน อย่างแบร์รี เนลสัน (รับบทในเวอร์ชันทีวี ตอน Casino Royale)


สำหรับแกรี่ ฟุคุนางะ ได้ผ่านการกำกับภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมและภาษามาอย่างยาวนาน ประสาทสัมผัสทางภาพและรสนิยมที่ไม่ธรรมดาของเขาเหมาะเหม็งมากสำหรับงานนี้

ก่อนหน้านี้ แกรี่ มีผลงานได้รับการยกย่องอย่างสูง ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา เป็นภาพยนตร์อินดี้เม็กซิกัน-อเมริกันเรื่อง Sin Nombre (2009) เรื่องราวเกี่ยวกับพรมแดนเม็กซิโก-อเมริกา โดยเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นสมาชิกของแก๊ง MS-13 และเด็กผู้หญิงที่พยายามจะข้ามไปยังสหรัฐ หนังถ่ายทำเป็นภาษาสเปนทั้งหมดและฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลหนังซันแดนซ์ และคว้ารับรางวัลด้านการกำกับภาพยนตร์ และการกำกับภาพ


แกรี่ ยังกำกับเรื่อง Jane Eyre (2011) นำแสดงโดย มียา วาสิโควา, ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ และเจมี เบล ต่อด้วยเรื่อง Beasts of No Nation (2015) หนึ่งในภาพยนตร์เรื่องแรกๆ ที่เข้าฉายทางเน็ตฝลิกซ์และโรงภาพยนตร์ในวันเดียวกัน นอกจากนี้ แต่เดิม ชื่อของเขาอยู่ในทีมเขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่อง It จากผลงานนิยายของ สตีเวน คิง แต่เขาออกจากโปรเจ็กต์กลางคันด้วยความเห็นที่แตกต่างกับสตูดิโอผู้สร้าง ทำให้เหลือแต่เครดิตของการเขียนบทภาพยนตร์เท่านั้น

ผลงานภาพยนตร์ของแกรี ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์อย่างมาก นอกจากนี้ เขายังเป็นที่รู้จักกันดีกับผลงานซีรีส์ทางทีวีด้วย กับ True Detective ที่นำแสดงโดยวู้ดดี้ ฮาร์เรลสันและแมทธิว แม็คคอนาเฮย์ ทั้ง 8 ตอน ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลเอ็มมีในปี 2014


นอกจากนี้ เขายังมีเครดิตเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์และรายการทีวีต่างๆ เช่น The Alienist ซีรีส์ลิมิเต็ดของทีเอ็นที และโปรเจ็กต์ทีวีล่าสุดของเขา Maniac ที่นำแสดงโดยโจนาห์ ฮิลล์ และเอ็มมา สโตน มีกำหนดฉายทางเน็ตฝลิกซ์อีกด้วย

แกรี่ ฟุคุนางะ มีประสบการณ์ส่วนตัวที่หลากหลาย เขาผ่านการเดินทางไปยังหลายๆ ประเทศ ได้ซึมซับวัฒนธรรมที่แตกต่างมากมาย พ่อของเขาเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น ที่เกิดในค่ายกักกันในสหรัฐช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ขณะที่แม่ของเขาเป็นชาวสวีเดน-อเมริกัน


พ่อแม่ของเขาแยกทางกันตอนที่เขายังเป็นเด็ก หลังจากนั้น พ่อก็แต่งงานใหม่กับกับผู้หญิงชาวอาร์เจนติน่า และแม่ของเขาแต่งงานกับชายชาวเม็กซิกัน-อเมริกัน แกรี่ พูดได้ทั้งภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปนอย่างคล่องแคล่ว โดยเรียนรู้ในช่วงซัมเมอร์ที่เม็กซิโกกับแม่และพ่อเลี้ยงของเขา

ผู้กำกับฯ เติบโตขึ้นมาในย่านเบย์ แอเรีย ของซานฟรานซิสโก ในวัยเด็กเขาไฝ่ฝันจะเป็นนักเล่นสโนว์บอร์ดมืออาชีพ และได้ฝึกฝนมาเพื่อการนี้ด้วย แกรี่ ฟุคุนางะ ได้ไปใช้ชีวิตในญี่ปุ่น 1 ปี เขาจบเอกประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซานตาครูซ ในแคลิฟอรเนีย ก่อนจะไปเรียนต่อด้านรัฐศาสตร์ที่เมืองเกรอโนบ ประเทศฝรั่งเศส


ในที่สุด เขาก็ค้นพบว่า สนใจงานด้านภาพยนตร์ งานแรกของเขาในสายนี้ คือการเป็นผู้ช่วยกล้องในมิวสิควิดีโอ Survivor ของเดสตินีส์ไชลด์ แกรี่ เข้าหาความรู้เพิ่มเติมในหลักสูตรปริญญาโทด้านศิลปะการสร้างภาพยนตร์ ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ระหว่างเรียน เขาเขียนและกำกับภาพยนตร์สั้นเรื่อง Victoria Para Chino และได้เข้าฉายในเทศกาลหนังซันแดนซ์ จนได้รับรางวัล Student Academy Award ด้วย

ตอนที่เขาคว้ารางวัลเอ็มมี จาก True Detective ชื่อของ แกรี่ ฟุคุนางะ ก็กลายเป็นไวรัลทางอินเทอร์เน็ตมากพอๆ ผมเปียของเขา เช่นเดียวกับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในชีวิตของเขาได้เปิดเผยออกมา เช่นว่า เขาชอบส่งภาพ GIF แกรี แกรนต์ (พ้องกับชื่อตัวเอง) ให้เพื่อน ๆ เขาชอบเขียนจดหมายรักยาวๆ และตอนนี้เดทอยู่กับมิเชล วิลเลียมส์

ยิ่งตอนนี้ที่มากำกับภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ ความนิยมของเขาดูจะพุ่งขึ้นไปอีก