นักกีฬาสายแฟ! เก่งบนสนามแต่เรื่องแฟชั่นก็ไม่น้อยหน้า

เทนนิสกับแฟชันดูเหมือนจะเป็น “คู่แท้” กันมานาน ย้อนไปตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930s ที่แบรนด์ลาคอสต์ถือกำเนิดขึ้นจากดารานักเทนนิส เรเน ลาคอสต์ ก่อนจะพัฒนาเป็นลักซ์ชัวรีสปอร์ตแวร์และแคชวลแวร์ชื่อดังในทุกวันนี้ จากนั้นมา นักเทนนิสอีกหลายคนที่ดำเนินรอยตามเส้นทางสายแฟชัน

โคโค โกฟฟ์

นักเทนนิสสาวคลื่นลูกใหม่ชาวอเมริกันวัย 17 ปี ที่ตอนนี้เป็นนักเทนนิสอาชีพอายุน้อยที่สุดในท็อป 100 อันดับโลก ล่าสุด ได้ร่วมมือกับแบรนด์นิวบาลานซ์ออกไลน์แฟชันสปอร์ตแวร์คอลเลกชันใหม่

เจ้าของตำแหน่งแชมป์ดับเบิลยูทีเอทัวร์ นำแรงบันดาลใจจากสีสันของกราฟิตีกรุงนิวยอร์กจากทศวรรษที่ 1990s มาใส่ไว้ในคอลเลกชันนี้ “ฉันรักการทำงานร่วมกับทีมออกแบบ พวกเขาเก่งมากในการทำจินตนาการของฉันให้ออกมาเป็นจริง โดยเฉพาะตอนที่เริ่มการถ่ายภาพโปรโมท การออกแบบกราฟฟิกต่างๆ นี่มันใช่เลย ฉันปลื้มใจทุกครั้งที่ได้เห็นแฟนๆ ได้สวมใส่ตามท้องถนนที่ผ่านไปเห็น”

โคโค เป็นมากกว่าดาวรุ่งในวงการเทนนิสไปแล้ว ตอนนี้ผู้คนเริ่มจับตามองคนที่จะตามเธอมาติดๆ อย่างลีย์ลาห์ เฟอร์นานเดซ สาวน้อยวัย 19 จากแคนนาดา รวมทั้ง ดาวเด่นคนล่าสุด อย่าง เอมมา ราดูคานู นักเทนนิสอังกฤษวัย 18

นาโอมิ โอซากะ

นอกเหนือจากเทนนิสแล้ว แชมป์แกรนด์สแลม 4 สมัยยังมีความหลงใหลในแฟชั่น โดย นาโอมิ โอซากะ ได้ร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำมากมาย ล่าสุด เธอร่วมมือกับแบรนด์เสื้อผ้ายักษ์ใหญ่อย่าง ลีวายส์ ในคอลเลกชั่น Levi’s x Naomi Osaka แบบลิมิเต็ดเอดิชัน

คอลเลกชัน 4 ชิ้นนี้ ประกอบด้วย ชุดกิโมโน กางเกงขาสั้นแบบผูกเชือก กางเกงขาสั้นประดับคริสตัล และเสื้อแจ็กเก็ต โดยเน้นแนวยีนส์วินเทจและอัพไซเคิล ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ส่วนตัวของนาโอมิเอง ซึ่งผสมผสานทั้งความเป็นนักกีฬาและรากเหง้าความเป็นญี่ปุ่นกับเฮติ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นาโอมิ โอซากะ ได้ร่วมงานสายแฟชันกับไนกี แฟรงกี บิกินีส์ สตราตแบร์รี ฯลฯ นอกจากนี้ เธอยังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของลุยส์ วิตตอง “สักวันหนึ่งฉันอยากจะสร้างแบรนด์แฟชันของตัวเอง โดยอาจจะทำร่วมกับน้องสาว แต่สำหรับตอนนี้ ฉันขอทดลองทำงานร่วมกับดีไซเนอร์ชั้นยอด และเรียนรู้งานฝีมือและธุรกิจไปก่อน”

อย่างไรก็ตาม นาโอมิ ได้เปิดตัว คินโล ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่นำเอาคำว่า ทอง ในภาษาญี่ปุ่นกับเฮติมารวมกัน เป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันรังสี UV ของบริษัทผลิตขึ้นเพื่อคนผิวสีโดยเฉพาะ จากสถติคนอเมริกันผิวสี 33% ที่เสียชีวิตภายใน 5 ปีหลังจากการถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งผิวหนัง

เซเรนา วิลเลียมส์

เป็นที่รู้กันว่า อดีตยอดนักเทนนิสอย่าง เซเรนา วิลเลียมส์ นั้นมีแพสชันในเรื่องแฟชันมาตลอด ซึ่งเธอต้องทำงานหนัก และพบกับการลอผิดลองถูก รวมทั้งคำติที่มีมากกว่าคำชม แต่แทนที่จะยอมแพ้ เซเรนา ทำงานหนักขึ้นเพราะเธอเชื่อมั่นในการลงทุนและเชื่อมั่นในตัวเอง ทำให้ตอนนี้ เอส บาย เซเรนา ที่มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ กลายเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง

วีนัส วิลเลียมส์

นักเทนนิสสาว วีนัส วิลเลียมส์ อยู่ในธุรกิจแฟชั่นมายาวนานกว่า น้องสาวของเธอเสียอีก ในปี 2007 เธอเปิดตัว อีเลฟเวน กลุ่มผลิตภัณฑ์กีฬาที่เน้นชุดเทนนิส โดยมีคติพจน์ 11/10 “หมายถึงการเป็นคนเก่งกว่า เป็น 11/10”

ในปี 2016 วีนัสยังได้เปิดตัว เอพิโทมี เสื้อผ้าไลน์ไลฟ์สไตล์สำหรับการเดินทางและพักผ่อนด้วยสโลแกน “ทำงานหนักแล้วอย่าลืมใช้ชีวิตด้วยล่ะ!” นอกจากนี้ วีนัสยังไปศึกษาการออกแบบแฟชั่นที่สถาบันศิลปะการออกแบบลอเดอร์เดลอีกด้วย

มาเรีย ชาราโปวา

อดีตมือ 1 ของโลกของรัสเซีย ต่อยอดแบรนด์ลูกอม ชูการ์โปวา ของเธอด้วยการออกไลน์เสื้อผ้าและเครื่องประดับภายใต้ชื่อแบรนด์เดิม ด้วยความร่วมมือกับ เฮนรี เบนเดล นิวยอร์ก ที่มีทั้งเสื้อยืด กระเป๋า หมวก เครื่องประดับ ฯลฯ แต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เป็นรูปโลโก้ริมฝีปากของชูการ์โปวา รวมทั้งเต็มไปด้วยสีสันสดใส

แบรนด์มาจากความคิดของเธอเอง ที่ว่าผู้คนสามารถแสดงออกผ่านเสื้อผ้าและเครื่องประดับของตัวเองได้ “ฉันคิดว่าสไตล์ของฉันค่อนข้างหรูหรา ฉันใส่ใจกับรายละเอียดในเสื้อผ้าเป็นอย่างมาก แต่สำหรับแบรนด์นี้ ฉันอยากทำให้มันสนุก”

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์

ไอคอนนักเทนนิสเปิดตัว เดอะ โรเจอร์ รองเท้าผ้าใบไลฟ์สไตล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทนนิสรายแรก โดยเป็นการลงทุนร่วมกับ ออน แบรนด์รองเท้าวิ่งสัญชาติสวิส ซึ่งเป็นการออกแบบผสมผสานสไตล์มินิมัลของออน กับแรงบันดาลใจจากรองเท้าเทนนิสของโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่ระบุว่า ต้องการแก้ปัญหาพื้นรองเท้ายางหนักของผู้ฝึกสอนเทนนิส พร้อมโครงสร้างที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีน้ำหนักเบา เดอะ โรเจอร์ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คู่

“การออกแบบที่เรียบง่ายและความสบายของรองเท้าของออนทำให้ผมติดใจ ผมอยากได้รองเท้าผ้าใบเทนนิสที่มีความเบา สบาย และคล่องตัวในทุกๆ วัน” ตำนานเทนนิสกล่าว

แอนดี มาร์รีย์

นักเทนนิสชาวอังกฤษสวมชุดที่มีตัวอักษร เอเอ็มซี ในการแข่งล่าสุดของเขา ตัวอักษรดังกล่าว ย่อมาจาก แอนดี มาร์รีย์ x คาสทอร์ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายนักเทนนิสและไลฟ์สไตล์แบรนด์ ที่เขาเข้าไปร่วมออกแบบ โดยผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ของแบรนด์ และแอนดี เพื่อมอบมาตรฐานใหม่ให้กับเสื้อผ้าสำหรับนักเทนนิสทั้งในและนอกสนาม” ไลน์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชั่นช่วงปลายทศวรรษที่ 70 และต้นยุค 80 ที่ชุดเทนนิสกลายเป็นสิ่งมีสไตล์ทั้งในและนอกสนาม

“ผมทำงานร่วมกับนักออกแบบของ เอเอ็มซี ในทุกๆ ชิ้น โดยเน้นประสิทธิภาพทางเทคนิคเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการทำงาน ขั้นตอนการทดสอบการใช้งานจริง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการออกแบบ”