ก่อนจะผ่านพ้นโค้งสุดท้ายปี 2020 ปีที่โควิด-19 แทบจะทำให้การเคลื่อนไหวในโลกแห่งความเป็นจริงแทบจะหยุดชะงัก ทั้งการ WFH การกักตัว ทุกคนต่างต้องพึงพาโลกออนไลน์ การติดต่อสื่อสารกันในโลกเสมือนจริงผ่านทางหน้าจอสี่เหลี่ยมของเครื่องไม้เครื่องมืสุดทันสมัย และการโลดแล่นของอารมณ์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ที่อาศัยความนิรนามที่ไม่ต้องระบุตัวตน ทำให้ทุกคนแสดงออกกันอิสระเสรี อย่างไม่มีขอบเขต ทำให้ปีนี้เป็นปีที่เซเลบหลายคนกลายเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์จากการตกเป็นข่าวดัง เรามาย้อนความทรงจำกันสักนิดว่าตลอดปีที่ผ่านมา มีประเด็นร้อนของเหล่าเซเลบคนไหนที่สังคมให้ความสนใจจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ หรือทัวร์ลงแบบไม่ทันตั้งตัวกันบ้าง
“บอส กระทิงแดง – วรยุทธ อยู่วิทยา”
ชื่อแรกที่หลายคนนึกถึง เพราะเขาตกเป็นข่าวดังระดับโลก สำหรับ “บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา” หลานชายของ เฉลียว อยู่วิทยา ผู้ก่อตั้งกระทิงแดง และเป็นลูกชายคนเล็กของ เฉลิม-ดารณี อยู่วิทยา ที่ก่อเหตุขับรถชน ด.ต. วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ เมื่อเช้ามืดของวันที่ 3 ก.ย. 2555 แล้วหลบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ ลากร่างของเจ้าหน้าที่นายดังกล่าวไปหลายสิบเมตร ทำให้ ด.ต. วิเชียร เสียชีวิต
ในเวลานั้น บอสถูกตั้งข้อหาขับรถขณะมึนเมา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน โดยหลังจากเกิดเหตุเขาไม่ยอมมาตามหมายเรียกถึง 8 ครั้ง พร้อมกับหลบไปใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และหลังจากยืดเยื้อมากว่า 8 ปี ก็เกิดข่าวใหญ่ก้องโลกอีกครั้ง
เมื่อสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า อัยการสูงสุดของไทยมีคำสั่งไม่สั่งฟ้องทุกข้อกล่าวหาและได้ถอนหมายจับ นำมาซึ่งกระแสกดดันและวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม จนต้องมีการตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวน ในที่สุด คณะทำงานอัยการพิจารณาคดีมีความเห็นสั่งฟ้องข้อหาขับรถโดยประมาท และเสพโคเคน หลังพบพยานหลักฐานใหม่ เตรียมส่งให้ตำรวจนำตัวมาสั่งฟ้องคดี หากพบอยู่ต่างประเทศต้องขอออกหมายจับจากตำรวจสากล
ทางฝั่งครอบครัวอยู่วิทยาเอง ได้ออกจดหมายเปิดผนึกขอโทษสังคม พร้อมเรียกร้องให้บอสออกมาแสดงความกระจ่างและบริสุทธิ์ใจ หลังครอบครัวต้องเผชิญกับกระแสลบจากสังคมจนเกินกว่าจะแบกรับไหว
“ไฮโซจิมมี่ – ร.ต.อ. อัครวินทร์ เตชะอุบล”
เรียกได้ว่าเป็นการซ้ำรอยลูกเศรษฐีตีนผี เพราะเป็นอีกหนึ่งข่าวดังที่เป็นคดีความจากอุบัติเหตุเช่นกัน เมื่อ “ร.ต.อ. อัครวินทร์ เตชะอุบล” หรือ ไฮโซจิมมี่ ขับรถยนต์บีเอ็มดับบลิวเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างขายลูกชิ้น จนทำให้คนขายลูกชิ้นเสียชีวิตคาที่บริเวณปากซอยพัฒนาการ 17 โดยหลังจากเกิดเหตุในช่วงเช้ามืด เจ้าตัวหายตัวไปจากจุดเกิดเหตุ ทิ้งเพื่อนสาวอยู่ในรถเพียงคนเดียว ก่อนจะตัดสินใจเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ซึ่งขณะนี้คดีความยังอยู่ระหว่างดำเนินการ
สำหรับ ไฮโซจิมมี่ หลายคนอาจคุ้นหูเป็นอย่างดี เพราะเมื่อ 2 ปีก่อนเคยมีข่าวว่ากำลังคบหากับ อั้ม–พัชราภา ไชยเชื้อ ดาราสาวชื่อดัง แถมโปรไฟล์ยังเริ่ด เป็นทายาทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ระดับต้นๆ ของประเทศไทย เป็นเจ้าของ บริษัท เจซี เควินฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด ทำธุรกิจร้านอาหารจีนเจิ้งโต่ว และซื้อแฟรนไชส์ร้านซินยอร์ ซาสซี ร้านอาหารอิตาเลียนจากอังกฤษ นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของร้านเบอร์เกอร์แอนด์ล็อบสเตอร์เจ้าดังอีกด้วย
“ปลาวาฬ – วรสิทธิ์ อิสสระ”
ปีนี้ทั้งต้องเผชิญกับศึกหนักจากธุรกิจโรงแรมที่เจ็บหนักจากพิษโควิด-19 แล้ว “ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ” ไฮโซหนุ่มชื่อดัง เจ้าของโรงแรมศรีพันวา รีสอร์ทหรูใน จ.ภูเก็ต ยังเจอศึกหนักอีกด้าน เพราะถูกทัวร์ลงกระหน่ำหลังจากออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง วิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหว และการชุมนุมผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้ #แบนศรีพันวา ทะยานขึ้นอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ และยังติดเทรนด์ทวิตเตอร์ข้ามวัน แต่งานนี้ดูเหมือนว่าปลาวาฬจะไม่หวั่นกับกระแสแบน เพราะมองว่าคนที่แบนไม่ใช่กลุ่มลูกค้าหลัก แถมยังคงออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
“คุณหญิงต้น-ม.ล. ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี”
ตามติดมาด้วยอีกหนึ่งคนดังที่โดนทัวร์ลงแบบไม่คาดคิดเหมือนกัน สำหรับ “คุณหญิงต้น-ม.ล. ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี” เมื่อจู่ๆ มีชาวเน็ตตาดีพากันตั้งข้อสังเกตว่า เหตุไฉนคุณหญิงต้นถึงไม่กักตัว 14 วันตามที่รัฐบาลกำหนดขอความร่วมมือเพื่อรอดูอาการ ทั้งที่เจ้าตัวเพิ่งเดินทางกลับจากไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ช่วงต้นเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดอย่างรวดเร็วที่ญี่ปุ่น แถมวันถัดมายังเดินสายออกอีเวนต์ทันที งานนี้ร้อนถึงคุณหญิงต้นต้องออกมาดับกระแสโซเชียล ด้วยการโพสต์ข้อความในอินสตาแกรมส่วนตัวชี้แจงว่า ได้ไปตรวจร่างกายแล้ว ไม่พบความผิดปกติ พร้อมเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกๆ ฝ่ายที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการป้องกันและรับมือ ขอให้ประเทศเราผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดี
“ท่านใหม่ – พล.อ. หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล”
เรียกได้ว่าเป็นบุคคลต้นๆ ที่โดนทางม๊อบปลดแอกจับตามองทุกความเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียล สำหรับ “ท่านใหม่ – พล.อ. หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล” เพราะท่านนับเป็นอีกคนหนึ่งที่ออกมาแสดงถึงความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเด่นชัดที่สุดในโลกโซเชียลมีเดีย จึงไม่วายโดนคอมเมนต์ก่อกวนและการแคปข้อความไปจิกกัดแซะอยู่เป็นประจำ โดยเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาก็ได้รับข่าวดี โดยยังความปลาบปลื้มปีติโสมนัส และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ เมื่อราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พลเอก หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล, พลเอก หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล และพันโท หม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคล เป็นนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์