Celeb Online

เปิดเทรนด์เซเลบสายมูแนวใหม่ สูงสุดคืนสู่สามัญ…หวนคืนธรรมชาติ


ถ้าพูดถึงไลฟ์สไตล์เทรนด์ที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจในทุกวันนี้ นอกจากเรื่องสุขภาพแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะฮอตฮิตไปมากกว่า การหาที่พึ่งทางใจ พลังพิเศษที่วิทยาศาสตร์ก้าวล้ำไม่ถึง หรือที่เรียกกันว่า “สายมู” ที่เรามักจะเห็นจากการบูชา เคารพกราบไหว้สิ่งของ ซึ่งแต่ก่อนนี้ดูจะมุ่งเน้นไปที่เคหะวัตถุ ผู้คนพากันวิ่งหาของที่อยู่ในกระแสมาบูชา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางของขลัง กำไลหิน จี้กังหัน ไอ้ไข่ หรือแม้กระทั่งภาพหน้า Wall โทรศัพท์ ไม่ก็ดั้นด้นเดินทางไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่าง ถ้ำนาคา เขาคิชฌกูฎ ท้าวเวสสุวรรณ หรือวัดในต่างประเทศ

แต่ละสิ่งที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่เป็นการเน้นหนักทางวัตถุนิยม ซึ่งในปัจจุบันนี้ต้องบอกว่า กระแสที่ว่านี้ต้องหลบไป เพราะกำลังมีเทรนด์ใหม่สายมูที่มาแรงแบบสุดๆ เป็นการหันกลับมาตระหนักถึงสิ่งที่อยู่ภายใน ไม่เน้นพึ่งพาของนอกกาย ด้วยการหันหาหลักยึดเหนี่ยวจิตใจในยุคว้าวุ่น ด้วยการ Back to nature มุ่งหาธรรมชาติ แนวจิตวิญญาณ เดินทางสาย Mindfulness ไม่ได้เน้นวัตถุนิยม เน้นการนั่งสมาธิ รู้จักตัว รู้จักใจตนเอง หาความสงบ จะเห็นได้ว่ามีคอร์สเจริญสมาธิ และการเทรนนิ่งที่เน้นธรรมชาติแห่งชีวิต ฝึกตน คุมกาย เสริมสร้างจิตใจ ค้นหาจิตวิญญาณผุดขึ้นมากมาย ซึ่งเหล่าเซเลบทั้งหลายก็ไม่พลาดในการเป็นหัวหอกนำเทรนด์นี้


คนแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ “นี-ชาลิสา วีรวรรณ” หญิงสาวที่หลายคนอาจติดภาพความเป็นตัวแม่ในแวดวงแฟชั่น จากผลงานและตำแหน่งในนิตยสารดัง แต่ทุกวันนี้ ชาลิสานับเป็นกูรูทางด้านเวลเนสและเป็นผู้ที่ศึกษาพลังธรรมชาติ จักรราศี ดวงดาว พลังงานจักรวาล เธอค้นหาตัวตนภายใน การเดินทางของจิตวิญญาณ ในหลากหลายรูปแบบ เรียกได้ว่าเป็นคนที่สนใจด้านนี้อย่างจริงจัง พร้อมทั้งจัดกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย จัดคอร์สจัดเวิร์กชอปดีๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น สารพัดกิจกรรมน่าสนใจในงาน Wonderfruit การจัด Self-discovery Trip หรือเวิร์กชอปโบทานิกแมนดาลา ร่วมกับทางปัญญ์ปุริ


ถัดมาอีกหนึ่งสาวเก๋ “ทิปปี้-สุพรทิพย์ ช่วงรังษี” เป็นอีกหนึ่งคนที่ก้าวล้ำนำเทรนด์อยู่ตลอด นักธุรกิจสาวคนนี้มีไลฟ์สไตล์สุดขั้ว มีทั้งพาร์ทหรูหรา แฟชั่นนิสต้าเจ้าของแบรนด์เนมดัง นั่งฟรอนต์โรว์ เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ และมีพาร์ทความเรียบง่าย อยู่กับธรรมชาติ เลี้ยงสัตว์คู่ใจ อย่าง น้องห่าน “พะโล้” ไปปฏิบัติธรรมทั้งในและต่างประเทศ ไปร่วมคอร์สสมาธิและล้างพิษกายใจด้วยธรรมชาติบำบัด มีทั้งอดน้ำอดอาหาร ฟังคลื่นเสียงบำบัด ทำไอซ์บาธ แช่น้ำแข็ง กิจกรรมที่เธอเชื่อว่าช่วยขับสารพิษ ชาร์จพลังงานภายใน ปรับโมเลกุลน้ำในร่างกาย ทำแล้วดีต่อร่างกายแบบสุดๆ


อีกหนึ่งคนที่สนใจในเรื่องนี้แบบสุดๆ ต้องยกให้กับทายาทหมู่บ้านปัญญา “ป๋าต๊อบ-ปฏิญญา ควรตระกูล” และแฟนสาว-ปีใหม่ สุมนรัตน์ ที่สนใจศาสตร์ของคลื่นเสียงบำบัด ศาสตร์ที่ช่วยบำบัดจิตใจได้ดีอีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นศาสตร์การดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจจากทิเบต เป็นการสร้างแรงสั่นสะเทือนในโมเลกุลจนเกิดคลื่นเสียง ที่เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีความถี่ต่ำสมดุลต่อร่างกาย ที่ช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ โดยอินจัดขนาดฝึกฝนจนเป็น “ผู้เชิญคลื่น” และแสวงหาอุปกรณ์ต่างๆ ที่สร้างคลื่นเสียงบำบัด ได้ทำห้องบำบัดและและเปิดคอร์สที่บ้านเลยทีเดียว


ส่วนนักธุรกิจสาว “แพม-ประนับดา พรประภา” ก็ขอหาเวลาว่างจากงานยุ่งๆ ไปชาร์จพลังชีวิตเข้าคลาสโยคะทริปถึงเกาะพงัน แถมเมื่อช่วงต้นปี ยังมีการบินข้ามโลกไปเข้าคอร์สเรียนรู้ตนเองจากภายในไกลถึงสหรัฐอเมริกา ที่สถาบัน Isha ศาสตร์ทางจิตวิญญาณจากอินเดียซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วโลก เป็นแนวทางการค้นหาตัวเองด้วยสำรวจภายในตัวตน เพื่อค้นพบศักยภาพสูงสุดของเรา เรียกได้ว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่สนใจในด้านนี้อย่างจริงจัง