“ม.ร.ว. สดศรี ปันยารชุน” นับว่าเป็นสตรีผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในชีวิต และหน้าที่การงานของ “อานันท์ ปันยารชุน” หัวหน้าครอบครัว และคุณพ่อของลูกสาว 2 คน “นัดดา ไกรฤกษ์” และ “ดารณี เจริญรัชต์ภาคย์” นับตั้งแต่ร่วมชีวิตคู่ สร้างครอบครัว และในวาระสุดท้าย
ม.ร.ว. สดศรี ปันยารชุน ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบในวัย 87 ปี 4 เดือน หลังจากติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสโลหิต เมื่อวันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน เวลา 08.20 น. ที่โรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิท ได้จากไปอย่างสงบ ท่ามกลางการโอบกอดด้วยความรัก และความอบอุ่นของทุกคนในครอบครัว “ปันยารชุน”
อานันท์ ปันยารชุน กล่าวถึง ม.ร.ว. สดศรี ปันยารชุน ภริยาอันเป็นที่รักไว้ว่า “ผมแต่งงานกับภรรยามา 66 ปีแล้ว ชีวิตคู่มีขึ้นมีลง ดีกัน ทะเลาะกัน มีความเห็นใจซึ่งกันและกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา พออายุมากขึ้น ยิ่งทำให้ผมเห็นชีวิตคนเรา มีภรรยาที่ดี มีลูกที่ดี เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด” และ “ความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือน คือความสัมพันธ์ในครอบครัว”
ม.ร.ว. สดศรี ปันยารชุน เป็นลื่อในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระปนัดดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมีกรมพระจักรพรรดิพงษ์ และเป็นพระนัดดาในพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์
ม.ร.ว. สดศรี มีชื่อเดิมว่า ม.ร.ว. สดศรีสุริยา จักรพันธุ์ ธิดาของ พลโทหม่อมเจ้าคัสตาวัส จักรพันธุ์ (พระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ กับหม่อมหวน จักรพันธุ์ ณ อยุธยา) กับ หม่อมเจ้าทิตยาทรงกลด รพีพัฒน์ (พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ กับหม่อมอ่อน รพีพัฒน์ ณ อยุธยา) เกิดเมื่อวันที่ 21 กรกฏาคม พ.ศ. 2479 มีพี่น้องร่วมบิดามารดาคือ ม.ร.ว. กทลี สุนทรสิงคาล และ ม.ร.ว. ตราจักร จักรพันธุ์
ม.ร.ว. สดศรี สมรสกับ อานันท์ ปันยารชุน มีบุตรี 2 คน คือ 1. นัดดา ไกรฤกษ์ สมรสกับ ไกรทิพย์ ไกรฤกษ์ (บุตรของ พูนเพิ่ม ไกรฤกษ์ อดีตเลขาธิการสำนักพระราชวัง กับ ท่านผู้หญิงกุณฑี ไกรฤกษ์) 2. ดารณี เจริญรัชต์ภาคย์ สมรสกับ ดร. ชัชวิน เจริญรัชต์ภาคย์ (บุตรของ ศาสตราจารย์ นาวาเอก ดร. เจริญ เจริญรัชต์ภาคย์ ร.น. อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม กับ ท่านผู้หญิงสดศรี เจริญรัชต์ภาคย์)
ม.ร.ว. สดศรี ปันยารชุน เป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อมด้วยความงามทั้งกายและใจ ทั้งกิริยามารยาทที่นุ่มนวล มีเสน่ห์ มีโอกาสเห็นโลกกว้างตั้งแต่เยาว์วัย โดยได้ติดตามท่านพ่อที่ทรงดำรงตำแหน่งผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ที่ประเทศฝรั่งเศส จึงได้เรียนและพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่เล็ก ทำให้มีความชำนาญในภาษานั้น อันเป็นคุณสมบัติติดตัวและเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตในฐานะภริยานักการทูตและผู้นำของประเทศ
ด้านการศึกษา ม.ร.ว. สดศรี เริ่มต้นศึกษาที่โรงเรียน มาแตร์เดอี ณ กรุงเทพฯ, โรงเรียนอเมริกัน ณ กรุงปารีส และช่วงวัยรุ่นศึกษาที่ประเทศอังกฤษ ในวิชาเลขานุการที่วิทยาลัยควีนส์ คอลเลจ ในกรุงลอนดอน ได้พบรักกับ อานันท์ ปันยารชุน หนุ่มนักศึกษาไทยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และได้สมรสปี พ.ศ. ๒๔๙๙ นับแต่นั้นมา
หลังเข้าพิธีสมรสกับอานันท์ ปันยารชุน ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประมาณ 8 ปี ม.ร.ว. สดศรี ได้ติดตามสามี ทำหน้าภริยาของเอกอัครราชทูตไทยประจำหลายสถานที่ อาทิ ประจำสหประชาชาติ แคนาดา สหรัฐอเมริกา และสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และทำหน้าที่ภริยาปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ต่อมาได้ทำหน้าที่ภริยานายกรัฐมนตรี อานันท์ ปันยารชุน สองสมัย (นายกฯ คนที่ 18 ของประเทศไทย)
นอกจากภรรยาอันเป็นที่รักของสามี และแม่ที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกสาวทั้งสองคนแล้ว ม.ร.ว. สดศรี เป็นที่ประจักษ์ในผลงาน และได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 (ภ.ป.ร.) ปี 2510, ตติยจุลจอมเกล้า (ต.จ.) ปี 2534, ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.) ปี 2534 และ มหาวิชรมงกุฎ (ม.ว.ม.) ในปี 2535
สำหรับกำหนดการพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพิธีสวดพระอภิธรรม บำเพ็ญกุศล ม.ร.ว. สดศรี ปันยารชุน ม.ว.ม., ป.ช., ต.จ., ภ.ป.ร.๔ ณ ศาลาร้อยปีฯ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ในวันที่ 22-24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 15.30 น. มีพิธีรดน้ำศพ จากนั้น 17.00 น. พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพิธีสวดพระอภิธรรม ในเวลา 18.00 น.
วันพฤหัสบดีที่ 23 – วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 พิธีสวดพระอภิธรรม ในเวลา 18.30 น. และตั้งแต่วันที่ 25-28 พฤศจิกายน 2566, วันที่ 3, 10, 17, 24 ธันวาคม 2566 สวดพระอภิธรรม ในเวลา 18.30 น.