เนื่องในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ 36 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำหนังสือฉบับพิเศษเพื่อน้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณ เทิดทูนในพระวิสัยทัศน์และพระอัจฉริยภาพใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ด้วยพระองค์ทรงตั้งพระทัยมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานและพระราชภารกิจอันยิ่งใหญ่ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จย่าของพระองค์
หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมพระวิสัยทัศน์และพระอัจฉริยภาพ ที่พระองค์ได้พระราชทานแนวพระดำริในการพัฒนาผ้าไทย ที่ทรงมอบให้แก่ กระทรวงกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และคณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก บูรณาการองค์ความรู้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย และนักออกแบบแถวหน้าของประเทศไทยหลากหลายสาขา เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทยที่เป็นมรดกของชาติ
ตอนหนึ่งในบทพระราชทานสัมภาษณ์จากหนังสือเฉลิมพระเกียรติ 36 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงกล่าวว่า “สมเด็จย่าท่านทรงเป็นไอดอลของท่านหญิง ก่อนที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศ ก็ได้ไปกราบบังคมทูลลา ท่านบอกว่า อย่าลืมรักษาความเป็นไทย โดยเฉพาะ เรื่องของแนวคิดและรูปแบบที่เราจะนำไปผสมผสานกับความเป็นตะวันตกได้อย่างชัดเจน จึงตั้งปณิธานไว้ว่า ถ้าจะช่วยเหลือประชาชนและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ ก็ควรเป็นสาขาวิชาชีพที่ร่ำเรียนมา”
ส่วน พระกรณียกิจในการสืบสาน รักษาและต่อยอด มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นั้น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ สนองพระมหากรุณาธิคุณในการปฏิบัติพระราชกิจงานด้านศิลปาชีพ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เป็นต้นมา ด้วยทรงเห็นว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ มีพระปรีชาสามารถทางด้านศิลปะและการออกแบบ
หลายต่อหลายโครงการที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ได้รับแรงบันดาลพระทัยจากการเสด็จทอดพระเนตรงานหัตถศิลป์พื้นถิ่นในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ทรงพบว่าภูมิปัญญาการทอผ้าพื้นถิ่นของไทยในทุกภูมิภาค มีความวิจิตรงดงาม อาทิ โครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” คือความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปหัตถกรรมไทย เพื่อให้รายได้กลับสู่ชุมชน ส่งเสริมและกระตุ้นผ้าไทยให้ทัน สมัยสู่สากล เป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัย และทุกโอกาส
โครงการ “นาหว้าโมเดล” โครงการต้นแบบในการพัฒนาผ้าพื้นถิ่นอย่างครบวงจร มีการพัฒนาลวดลายและสร้างมาตรฐานเส้นใย สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นสากล พัฒนาบรรจุภัณฑ์และสร้างแบรนด์เพื่อการตลาด และยังมีการฟื้นฟูการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้และสนับสนุนการผลิตเส้นใยเพื่อลดต้นทุนการผลิต เป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้าไทยที่เป็นภูมิปัญญาพื้นถิ่น ต่อยอดแปรรูปผ้าและเครื่องแต่งกายให้มีความร่วมสมัย สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพในพื้นถิ่นอย่างยั่งยืนให้กับชุมชน “นาหว้าคอลเลกชัน” เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการฟื้นฟูและพัฒนาลายผ้า ด้วยความร่วมมือระหว่างชุมชนและผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย พร้อมด้วยนักออกแบบหลากหลายสาขา เพื่อพัฒนาผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โครงการ “ดอนกอยโมเดล” โครงการต้นแบบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาพื้นถิ่นครบวงจร ด้วยวัตถุประสงค์ในการวางรากฐานการพัฒนาคุณภาพการทอผ้า พัฒนาคุณภาพของเส้นใย พื้นฟูองค์ความรู้พื้นถิ่นในการย้อมสีเส้นใยจากพืชพรรณธรรมชาติ ถักทอผืนผ้าและนำไปออกแบบตัดเย็บคอลเลกชันเสื้อผ้าแฟชั่นร่วมสมัย
อีกทั้งได้พระราชทานแบบผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” เพื่อให้กรมการพัฒนาชุมชนกระทรวงมหาดไทย ส่งต่อให้กับช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค ทุกภูมิภาค เพื่อนำไปสร้างสรรค์ผืนผ้าตามอัตลักษณ์ ภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศ ด้วยมีพระประสงค์เพื่อให้เป็นการจุดประกายความคิดในการพัฒนาลวดลายผ้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย สามารถก้าวสู่ระดับสากลเพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืน
สำหรับ ภารกิจการอนุรักษ์ผ้าทอพื้นถิ่นอันทรงคุณค่าให้คงอยู่คู่แผ่นดิน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ยังทรงเสด็จไปพระราชทานขวัญกำลังใจให้แก่สมาชิกศิลปาชีพ และพระราชทานแนวพระดำริในการพัฒนาการสร้างสรรค์ผืนผ้า ที่มีความร่วมสมัยและเป็นสากล ทรงสนับสนุนเรื่องการหาช่องทางใหม่ๆ ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เช่น การจัดงานจำหน่ายผืนผ้าและงานหัตถศิลป์จากมูลนิธิ ในโอกาสสำคัญต่างๆ ทรงให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมช่างทอและช่างฝีมือ ทรงแบ่งปันแนวพระดำริเรื่องโทนสีที่อยู่ในความนิยม ทรงให้ความสำคัญในเรื่องการย้อมเส้นใยด้วยสีย้อมจากธรรมชาติ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทรงส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยหันมาสวมใส่ผ้าไทย เพื่อเป็นการเสริมสร้างเอกลักษณ์ผ้าไทยให้เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยทรงเป็นต้นแบบด้วยฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บด้วยผ้าไทยมาโดยตลอด
อีกหนึ่งภารกิจสำคัญก็คือ การพระราชทานแนวพระดำริในการดำเนินงานและพัฒนาพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ให้เจริญก้าวหน้าทันยุคสมัย จัดแสดงนิทรรศการที่มอบองค์ความรู้และแรงบันดาลใจแก่ผู้คน สร้างให้พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับผ้าและเครื่องแต่งกาย สมดั่งพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมุ่งหวังให้พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ยั่งยืน
ในโอกาสอันเป็นมหามงคลที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ จึงได้พระราชทานแนวพระดำริให้พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ จัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง “สิริราชพัสตราบรมราชินีนาถ : Decades of Style” โดยพระองค์ทรงรับตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาและหัวหน้าภัณฑารักษ์ นิทรรศการนี้จัดแสดงฉลองพระองค์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพ้นปีหลวง จากยุคสมัยต่างๆ แสดงให้เห็นถึงการบูรณาการศาสตร์และศิลป์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว และยังเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการส่งเสริมหัตถกรรมการทอผ้าพื้นเมือง ที่ยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชนให้มีชีวิตที่ดี และเป็นการอนุรักษ์สมบัติทางวัฒนธรรมของชาติให้ยั่งยืนสืบไป