>>เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนวิถีชีวิตใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม “บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด” จับมือภาคธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทย ร่วมถ่ายทอดความรู้เพื่อสนับสนุนความยั่งยืนในงาน “Sustainability for Business Forum (SBF20) ครั้งที่ 4” ซึ่งจัดโดย หอการค้าฝรั่งเศส-ไทย , หอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทย และหอการค้าไทย-สวีเดน ร่วมกันสนับสนุนการทำงานเพื่อความยั่งยืนในภาคธุรกิจ และช่วยหาแนวคิดที่จะมาสร้างวิถีชีวิตใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมของทุกคนให้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
โดยหัวข้อในงานสัมมนาในปีนี้คือ Green Recovery ว่าด้วยเรื่องของความยั่งยืนและวิกฤตโควิด-19 ที่มีความเกี่ยวข้องกันอย่างลึกซึ้ง ในขณะเดียวกันแม้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะหยุดชะงัก แต่ความเสื่อมโทรมด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมไม่ได้หยุดไปด้วย ดังนั้นการหันกลับมาทบทวนธุรกิจของทุกองค์กรภายใต้ขอบเขตของระบบนิเวศ รวมถึงสวัสดิภาพของมนุษย์ เพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาวจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
ในงานเสวนาเน้นการพูดคุยกันภายใต้ 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ เมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืนและมีพลวัต , ไลฟ์สไตล์ด้านแฟชั่นและความงามที่ยั่งยืน , และอาหารแห่งอนาคต ไฮไลท์ของงานอยู่ที่เวทีเสวนา CEO โดยผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำภายในประเทศที่ดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนเป็นสำคัญตลอดช่วงวิกฤติโควิด-19 ประกอบด้วย ลอรีอัล ประเทศไทย , ซิมไบเออร์ โซลาร์ และ เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ ภายใต้หัวข้อ “ความยั่งยืนในมุมมองของกลยุทธ์องค์กร”
“อินเนส คาลไดรา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในผู้บริหารบนเวทีเสวนา CEO กล่าวว่า “ความยั่งยืนที่มุ่งเน้นพันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจของลอรีอัลมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ ลอรีอัล ประเทศไทย ได้ร่วมช่วยเหลือสังคมไทยให้ผ่านพ้นความท้าทายในช่วงวิกฤติโควิด-19 ผ่านโครงการ L’Oréal Thailand COVID-19 Solidarity และล่าสุด ลอรีอัล ได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่เพื่อความยั่งยืน “L’ORÉAL FOR THE FUTURE” ตั้งเป้าหมายการทำงานสำหรับปี 2030 มุ่งยกระดับเร่งการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานโดยคำนึงถึงขีดจำกัดความปลอดภัยของโลกเป็นที่ตั้ง และมุ่งหวังในการเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงทั้งในอุตสาหกรรมความงามและอุตสาหกรรมอื่นๆ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริโภคและทุกภาคส่วน ให้ร่วมกันเดินหน้าปกป้องโลกใบนี้ไปด้วยกัน”
เป้าหมายสำคัญที่ลอรีอัลได้กำหนดในวิสัยทัศน์ L’ORÉAL FOR THE FUTURE คือ สถานประกอบการของลอรีอัลทุกแห่งต้องปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ พลาสติกที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ลอรีอัลทั้งหมด 100% จะมาจากพลาสติกรีไซเคิลหรือแหล่งวัสดุชีวภาพ 100% ของส่วนผสมฐานชีวภาพในสูตรและวัสดุฐานชีวภาพของบรรจุภัณฑ์จะสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้และมาจากแหล่งยั่งยืน รวมถึงพัฒนาการแสดงข้อมูลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมของผลิตภัณฑ์แบบระดับคะแนนทางเว็บไซต์ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนมากขึ้น
ด้าน “แดน ปฐมวาณิชย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารตัวแทนจากอุตสาหกรรมอาหารนั้น กล่าวว่า “ความยั่งยืนเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของบริษัททั้งด้านนโยบายและด้านกลยุทธ์การแข่งขันทางธุรกิจ ความยั่งยืนยังนับเป็นตัวกำหนดว่าบริษัทเราคือใครในเวทีระดับโลก อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น เลือกบริษัทเราเป็นบริษัทหนึ่งเพื่อเป็นผู้ผลิตร่วมกันสำหรับแบรนด์อาหารประเภทนี้ทั่วโลก”
และส่วนของกลุ่มพลังงาน “ฟลอเรียน เบนโฮลด์” ประธานกรรมการบริหาร ซิมไบโอร์ โซลาร์ กล่าวว่า “คุณค่าองค์กรโดยรวมของซิมไบเออร์ โซลาร์ คือความยั่งยืนที่ตั้งมั่นอยู่บนพันธกิจหลักของบริษัทฯ โดยนอกจากการคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพด้านการดำเนินธุรกิจของลูกค้า ซิมไบเออร์ โซลาร์ยังมุ่งสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงธุรกิจพวกเขาให้สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยพลังงานหมุนเวียน ควบคู่ไปกับการลดปริมาณของเสียและค่าใช้จ่ายอีกด้วย”
และนี่คือความตั้งใจของ ลอรีอัล (ประเทศไทย) ที่มุ่งมั่นจะเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคม ที่ไม่ใช่แค่ในช่วงวิกฤตโควิด 19 นี้เท่านั้น แต่เป็นการสร้างความยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อมในทุกสถานการณ์