Celeb Online

รวมตัวคนดังโชว์พลังผู้หญิงผู้ขับเคลื่อนโลกสู่อนาคต


ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ฮาร์เปอร์ส บาซาร์ ในฐานะนิตยสารแฟชั่นระดับโลก ได้ยืนหยัดเคียงข้างและเชิดชูบทบาทของผู้สร้างสรรค์มาอย่างยาวนาน ผ่านการจัดงาน Harper’s BAZAAR Women of the Year เพื่อเฉลิมฉลองและมอบรางวัลอันทรงเกียรติแด่สุภาพสตรีผู้ทรงอิทธิพล ผู้ซึ่งใช้พรสวรรค์ วิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่น สร้างสรรค์ผลงานอันโดดเด่น พร้อมเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ร่วมขับเคลื่อนสังคมในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปะ วัฒนธรรม ธุรกิจ หรือแฟชั่น


ในปีนี้ นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญ เมื่อ ฮาร์เปอร์ส บาซาร์ ประเทศไทย (Harper’s BAZAAR Thailand) ได้นำเอาเจตนารมณ์อันยิ่งใหญ่นี้มาสู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ด้วยการจัดงาน Harper’s BAZAAR Women of the Year 2025 เพื่อเฉลิมฉลองคุณค่าและความสำเร็จของบุคคลผู้ทรงอิทธิพลชาวไทยจากหลากหลายแวดวงผู้ซึ่งเปล่งประกายความสามารถและจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์ พร้อมถ่ายทอดแรงบันดาลใจและพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงสู่สังคม ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างงดงามและยั่งยืน ณ Sphere Hall ชั้น 5 ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์


ภายในงานคับคั่งไปด้วยแขกผู้มีเกียรติ อาทิ อรธิรา ภาคสุวรรณ, รุจจิ์-รติรส จุลชาต, จิตติมา วรรธนะสิน, ศิริชัย ทหรานนท์, อิทธิฤทธิ์ รัตนทารส อัมพุช, นภัสสร-เปรมณัช สุวรรณานนท์, ภูภวิศ กฤตพลนารา, พัชรวัฒน์ ตระกาลสันติกูล, ดร.ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา, วาสนา อินทะแสง, วศธร พลไพศาล, ณวพรรณ พรประภา, นิษฐา-ธราภุช คูหาเปรมกิจ, แพทริเซีย กู๊ด, มิลิน ยุวจรัสกุล, ธนสาร คณะเกษม, กรณ์ นียะพันธ์ ฯลฯ ให้เกียรติมาร่วมงาน และเฉลิมฉลองความสำเร็จอันยิ่งใหญ่


ไฮไลท์สำคัญของงาน คือ พิธีมอบรางวัล Harper’s BAZAAR Women of the Year 2025 เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของบุคคลผู้ทรงเกียรติ ผู้ซึ่งเป็นพลังแห่งแรงบันดาลใจ โดยได้รับเกียรติสูงสุดในการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลในสาขา Thai Heritage แด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อเฉลิมพระเกียรติคุณและยกย่องสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างไว้แก่สังคมไทย นอกจากพระองค์จะทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านการออกแบบแล้ว ยังทรงเป็นผู้นําในการสืบสาน อนุรักษ์ และต่อยอดภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านผ้าไทย พระองค์ทรงตีความลวดลาย เทคนิคดั้งเดิม และความงดงามของงานหัตถศิลป์ไทยให้มีความร่วมสมัย ผ่านการออกแบบภายใต้แบรนด์ SIRIVANNAVARI ซึ่งพระองค์ทรงกำกับงานอย่างใกล้ชิด ผลงานของพระองค์ทำให้ผ้าไทยถูกชุบชีวิตใหม่ในเวทีแฟชั่นโลก และเป็นที่ประจักษ์ว่ามรดกไทยสามารถงอกงามได้อย่างร่วมสมัยโดยไม่สูญเสียเสน่ห์ดั้งเดิม


พร้อมกันนี้ ยังมีการมอบรางวัลให้แก่ผู้ทรงอิทธิพลในสาขาต่าง ๆ นำโดย รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง ในสาขา Breakthrough, สโรชา จันทร์กิมฮะ ในสาขา Breakthrough, อารยา เอ ฮาร์เก็ต ในสาขา Fashion Icon, อุรัสยา เสปอร์บันด์ ในสาขา Actress, วาสนา สายมา ในสาขา Craftsmanship, เอวาริณณ์ พันธุ์วิเชียร ในสาขา Makeup Artist, พิชญา สุนทรญาณกิจ ในสาขา Chef, ชรารัตติ์ สาระอาภรณ์ ในสาขา Pop culture, แอน ทองประสม ในสาขา Wellness, วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ ในสาขา Artist, จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท ในสาขา Writer, สมฤทัย รัตนวราห ในสาขา Influencer, ดนุภา คณาธีรกุล ในสาขา Musician และ กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ในสาขา Phenomenon


ไอคอนแห่งวงการแฟชั่น ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต เจ้าของรางวัลสาขา Fashion Icon นิยามตัวตนผ่านกาลเวลากว่าทศวรรษว่า “สไตล์คือการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมาย” เธอย้ำถึงทัศนคติในการใช้ชีวิตท่ามกลางโลกโซเชียลว่า “อยากให้คนจดจำว่า ‘I have no hate’ เราไม่เคยเกลียดใคร อยากส่งต่อแต่พลังบวก สังคมทุกวันนี้เต็มไปด้วย Negativity มากเกินไป อยากให้คนใจดีต่อกันมากขึ้น อย่าตัดสินกัน และอย่าดูถูก Purpose ของตัวเอง”


สำหรับคลื่นลูกใหม่ที่สะท้อนศักยภาพ Soft Power ไทย เบ็คกี้-รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง เจ้าของรางวัลสาขา Breakthrough เปิดใจถึงเบื้องหลังความสำเร็จว่า “ทุกเช้าที่ตื่นมาคือความพร้อมที่จะลุยเต็มที่ ต่อให้ป่วยก็ต้องสู้ เพราะมันคือความรับผิดชอบ… อยากให้คนได้ยินชื่อเบ็คกี้แล้วรู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นนักแสดงที่เก่งและตั้งใจกับทุกผลงานแบบเกิน 100%” เช่นเดียวกับ ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ ที่เชื่อว่า “ความกล้าที่จะลงมือทำคือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด… อยากให้สังคมเห็นคุณค่าของการเป็นตัวตนที่แท้จริง หยุดลดทอนตัวเองเพื่อให้ใครยอมรับ แต่กล้าที่จะเป็นในแบบที่เราภูมิใจ”


ทางด้าน ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ เจ้าของรางวัลสาขา Actress นักแสดงหญิงผู้ครองหัวใจผู้ชมมาอย่างยาวนาน นิยามความเป็นนักแสดงผ่านจุดเปลี่ยนในละคร “จาก 'ดวงใจอัคนี' สู่การปลดล็อกจิตวิญญาณนักแสดงใน 'คลื่นชีวิต' เผยว่าความท้าทายสูงสุดคือการทำความเข้าใจ 'ความเป็นมนุษย์' ผ่านตัวละครจนผู้ชมเชื่อสนิทใจ ซึ่งนั่นคือความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่กว่ารางวัลใดๆ เธอทิ้งท้ายด้วยพลังบวกถึงผู้หญิงทุกคน ให้กล้าแสดงออกผ่านแฟชั่นและใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย โดยยึดมั่นใน 'การรักตัวเอง' เพราะเมื่อเรารักตัวเองมากพอ เราจะก้าวผ่านทุกอุปสรรคไปได้อย่างงดงาม”


ความพิเศษของค่ำคืนนี้ ยังถูกถ่ายทอดผ่านถ้วยรางวัล (Trophy) อันทรงเกียรติ ซึ่งได้รับการออกแบบโดย SARRAN ภายใต้คอนเซปต์ “A Tribute to Thai Women's Intelligence and Invisible Power” หรือการสดุดีแด่สติปัญญาและพลังที่มองไม่เห็นของผู้หญิงไทย โดยหยิบยกวัฒนธรรมการใช้ “กลิ่น” และ “ดอกไม้” ซึ่งเปรียบเสมือนภาษาลับของผู้หญิงไทยในอดีตมาเป็นแรงบันดาลใจ ตัวกล่องรางวัลถูกออกแบบให้คล้ายกับ “กล่องอบร่ำโบราณ” ที่เก็บรักษากลิ่นหอมของดอกไม้ไทยไว้บนผิวไม้ เสมือนความทรงจำที่ยังมีลมหายใจ เมื่อเปิดกล่องออก จะพบกับ “เข็มร้อยมาลัย” ที่ร้อยดอกรักค้างไว้ (Signature Crown Flower) สะท้อนถึงเรื่องราวและความสามารถของผู้หญิงที่ถูกสืบสานอย่างไม่มีวันจบสิ้น บนแผ่นทองเหลืองเงาดุจพานโบราณ จารึกชื่อผู้ได้รับรางวัลเพื่อเชิดชูเกียรติอย่างสูงสุด นับเป็นงานออกแบบที่ไม่ได้เป็นเพียงวัตถุ แต่คือสัญลักษณ์แห่งการสืบทอดพลังหญิงไทยจากอดีตสู่อนาคต