จับกระแสเทรนด์การเติบโตตลาดผู้สูงวัย ซิลเวอร์แอคทีฟ นำโดย วรรณา สวัสดิกูล ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจการตลาดชั้นนำ หนึ่งในทีมสร้างสรรค์แพลตฟอร์ม SILVERASTIC 4 ประกาศเปิดตัว “SILVERASTIC 4” (ซิลเวอร์ลาสติก โฟร์) การรวมตัวกันของ 4 พันธมิตรดิจิทัลแพลตฟอร์มชั้นนำครั้งแรกในประเทศไทยที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบโจทย์ “กลุ่มผู้สูงวัย” (Silver Gen) นำโดย CountUp.Life, Beartai, มนุษย์ต่างวัย และ YoungHappy เพื่อบุกกลุ่มธุรกิจสินค้าและบริการจับตลาดกลุ่ม Silver Gen แบบครบวงจร ตอบรับกระแส “SILVER IS THE NEW BLACK” ที่กำลังมาแรง ร่วมสร้างสังคมเพื่อเตรียมพร้อมใช้ชีวิตหลังวัย 50 อย่างมีความสุข สุขภาพดี และ มีพลัง
ภายในงานนำโดย 4 พันธมิตรทางธุรกิจจาก 4 เพจชั้นนำที่จับตลาดกลุ่ม SILVER gen ได้แก่ ประสาน อิงคนันท์ ผู้ก่อตั้งเพจ “มนุษย์ต่างวัย”, หทัยดิส มุ่งถิ่น ผู้ร่วมก่อตั้งเพจ “CountUp”, หนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ผู้ก่อตั้งเพจ “Beartai” (แบไต๋), ธนากร พรหมยศ ผู้ร่วมก่อตั้งเพจ YoungHappy ร่วมแนะนำ SILVERASTIC 4 แพลตฟอร์มใหม่ โดยมี สมวลี ลิมป์รัชตามร กรรมการผู้จัดการบริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย), วชิรชัย คูนำวัฒนา Head of living solutions business บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด, นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ ผู้ชำนาญการด้านการดูแลป้องกันและฟื้นฟู จาก บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ร่วมพูดคุย ปิดท้ายกับ Talk Show ครั้งประวัติศาสตร์ นำทอล์กโดย น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา, ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม และ ทนงศักดิ์ ศุภการ ที่จะมาร่วมแชร์ประสบการณ์ของการก้าวเข้าสู่วัย Silver Gen
ทางด้าน ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม กล่าวว่า 2 ปีที่แล้ว ตนเกิดอาการหัวใจวาย และต้องผ่านการรักษาด้วยวิธีบอลลูนหัวใจมาแล้ว แต่เหตุการณ์ได้คลี่คลายภายในเวลาชั่วโมงกว่า ทำให้เราตระหนักว่าเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ซึ่งโรคหัวใจที่ตนเป็นนั้นเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต นิสัยการกิน ก่อนหน้าตนเคยไปเรียนวิ่งจนสามารถวิ่งมาราธอน และวิ่งกับตูน บอดี้สแลมได้ แต่หลังจากนั้นก็เริ่มไม่มีวินัย ไม่ออกกำลังกาย ไม่หาหมอ ไม่กินยา ไม่ตรวจสุขภาพ จนผ่านไป 3 ปี จึงไม่แปลกใจว่าเป็นโรคทำเอง ตอนนี้ดูแลสุขภาพด้วยการเลือกทาน ทานแบบบันยะยันยัง ออกกำลังกายด้วยการเข้ายิมบ่อยขึ้น และวิ่งรอบหมู่บ้าน เมื่อเราอายุ 50 ไปแล้ว เมื่อถึงจุดหนึ่งเราจะรู้ว่าเราได้ผ่านเหตุการณ์ที่หนักที่สุดไปแล้ว ช่วงที่มีความทุกข์ที่สุดคือตรงกลาง 30-50 ปี ผ่านไปได้คือขาขึ้น เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความจริงที่ว่าในที่สุดเราต้องตาย และไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และเราพบว่าเรากำลังจะเตรียมเดินไปสู่จุดสุดท้ายอย่างมีความสุขที่สุด
ขณะที่ น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา บอกว่า เริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่งจาก การชาเลนจ์กับทีมก้าว ของตูน บอดี้สแลม ตอนนั้นประกาศว่าจะวิ่ง 10 กิโลเมตร ก็ทำสำเร็จจนสามารถวิ่งฮาล์ฟมาราธอนได้แล้ว ตอนนี้ก็ฝึกวิ่งวันเว้นวัน การวิ่งทำให้เราเห็นว่าเราทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิด เมื่อได้วิ่งแล้วเราจะรู้สึกว่าระยะทางไปไหนก็ใกล้ไปหมด โลกมันใกล้ขึ้น รู้สึกได้ว่าเราเป็นเจ้าของร่างกายเราจริงๆ และทำให้เราสูบบุหรี่ได้น้อยลง สุดท้ายขอเชิญชวนให้พวกเราแก่ไปด้วยกัน ตอนเราอายุน้อยๆ เราจะชอบคิดว่าคนอื่นต้องมองเรา สนใจเราแน่ๆ เราเลยแสดงออกด้วยเสื้อผ้าหน้าผม แต่พออายุ 30-40 จะเริ่มเป็นตัวของตัวเอง และเมื่ออายุ 50 เราจะพบว่าแท้จริงแล้วไม่มีใครสนใจเราขนาดนั้น ไม่ว่าเราจะตายตอนไหนก็ถือว่าวันนั้นเป็นวันที่ดีที่สุด เพราะเรามีประสบการณ์มากที่สุดแล้ว และเราไม่มีทางประสบความสำเร็จถ้าเราอายุไม่มากพอ”