Celeb Online

ครั้งแรกในไทยและอาเซียน กับคลินิกการได้ยินและการทรงตัว


บริติช เคานซิล และสอวช./บพค. ร่วมกับคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เชิญผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจากอังกฤษ บินตรงให้ความรู้หมอไทยในงาน “ประชุมวิชาการก้าวไกล” จัดโดย ราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิกแพทย์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2/2565 พร้อมกับเปิดตัวคลินิกการได้ยินและการทรงตัวขั้นสูงแห่งแรกในไทยและอาเซียน


ผศ.ดร.วรจิตต์ เศรษฐพรรค์ รองผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาการวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) เผยว่า “ทาง บพค. มีหน้าที่หลักในการจัดสรรทุนด้านการพัฒนากำลังคนในสาขาที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศตามนโยบายและยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนโยบายของรัฐบาล และเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมที่จะเกิดขึ้น ทางบพค. ได้ร่วมสนับสนุนโครงการ วิจัยและพัฒนาในหัวข้อ : Public Involvement and Engagement assessment framework to reflect Thai older adult needs: Innovative monitoring and evaluation of social science, humanities, and arts (SHA) research เพื่อมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและประชากรผู้สูงอายุ ในการสะท้อนความต้องการที่แท้จริงของผู้สูงอายุในการพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมและวิจัยทางการแพทย์ และพัฒนาทีมงานในการดูแลผู้สูงอายุของประเทศไทย”


รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ คณบดี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเสริมว่า “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติในระดับโลก มีปณิธานที่จะสร้างคน สร้างสรรค์องค์ความรู้และนวัตกรรม สร้างเสริมสังคมไทยให้ก้าวไกลในสังคมโลก คณะแพทยศาสตร์เองก็เช่นเดียวกัน เรามีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นสถาบันต้นแบบทางการแพทย์ที่มีคุณธรรมและสร้างมาตรฐานระดับนานาชาติ สร้างงานวิจัยที่มีคุณค่า ตลอดจนให้บริการทางการแพทย์และวิชาการเพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงวิชาการของชาติและนานาชาติและชี้นำสังคม ซึ่งความร่วมมือในเรื่องการดูแลผู้สูงอายุ และทุนวิจัยร่วมมือพัฒนานวัตกรรมการดูแลผู้สูงอายุด้านการได้ยินและทรงตัว ในครั้งนี้ของ ดร.พญ.นัตวรรณ อุทุมพฤกษ์พร และ Professor Doris Bamiou ของทางศูนย์การได้ยินการสื่อสารและการทรงตัว University College London Ear Institute สถาบันหูแห่งมหาวิทยาลัยกรุงลอนดอน และ Royal National Throat Nose Ear Hospital โรงพยาบาลหูคอจมูกแห่งสหราชอาณาจักร นับเป็นความสำเร็จอย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของคณะแพทยศาสตร์ โดยเฉพาะการพัฒนาการวิจัยและร่วมมือหลักสูตรเพื่อนำไปสู่การเป็นสถาบันต้นแบบทางการแพทย์ที่เป็นผู้นำในระดับชาติและนานาชาติแล้ว ยังสามารถต่อยอดงานวิจัยให้กลายเป็นงานให้บริการกับบุคคลโดยทั่วไปได้อย่างแท้จริง”